privacy

นโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้า

หัวข้อ

1. นโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้า

2. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

3 วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

4 ระยะเวลาในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

5 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

6 มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูล

7 สิทธิของเจ้าของข้อมูล

1. นโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้า

บริษัท เบล็ส แอสเสท กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) (“บริษัท”) ในฐานะผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ท่านในฐานะลูกค้า (“ลูกค้า”) ให้ความสนใจจอง และ/หรือจะซื้อจะขายและรับโอนกรรมสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ที่ทางบริษัทได้พัฒนาขึ้น มีจุดประสงค์แจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้าฉบับนี้ ที่กำหนดเกี่ยวกับเงื่อนไขการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่บริษัทจำเป็น ต้องดำเนินการ ในระหว่างกระบวนการติดต่อสื่อสาร และประสานงานระหว่างบริษัทและลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าทราบ เมื่อลูกค้าให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัท ระหว่างกระบวนการ (1) การเยี่ยมชมโครงการ ซึ่งท่านอาจให้ข้อมูลในแบบ สอบถามความสนใจ (2) การจัดทำเอกสารใบจองต่อเนื่องไปสู่กระบวนการทำสัญญาจะซื้อจะขาย การขอสินเชื่อ (ถ้ามี) การชำระราคา และกระบวนการโอนกรรม สิทธิ์ต่าง ๆ (3) การให้บริการเพิ่มเติมหลังการโอนกรรมสิทธิ์ ภายใต้เงื่อนไขการบริหารชุมชนที่บริษัทตกลงปฏิบัติให้แก่ลูกค้า รวมถึงกรณีอื่น ๆ ที่ท่านอาจส่งข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ของท่านให้แก่บริษัท บริษัทจะถือว่า ท่านตกลงและยอมรับเงื่อนไขที่ระบุไว้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้แล้ว หากท่านไม่ตกลงให้ทางบริษัทดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามที่ระบุไว้นี้ บริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะปฏิเสธการให้บริการหรือการทำธุรกรรมใด ๆ แก่ท่าน เนื่องจากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้นโยบายฉบับนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติหน้าที่ที่บริษัทต้องดำเนินการให้แก่ท่าน ทางบริษัทอาจปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ตามแต่ละระยะเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และให้สอดคล้องกับการให้บริการ การดำเนินธุรกิจ และการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ ของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงการเปลี่ยนแปลงด้วยการประกาศนโยบายฉบับปรับปรุงใหม่ผ่านทางช่องทางการติดต่อของบริษัท

2. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

1. ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับท่าน อาทิ ชื่อ นามสกุล อายุ เพศ สัญชาติ ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของท่าน เช่น สถานภาพการสมรส ตำแหน่งงาน ประเภทธุรกิจ ระดับรายได้ รวมถึงข้อมูลอื่นใดที่ท่านอาจให้ภายใต้แบบสอบถามความสนใจที่บริษัทจัดทำขึ้น และรวมทั้งข้อมูลที่บริษัทอาจได้รับจากการเก็บข้อมูลด้วยระบบอัตโนมัติโดยตรงจากบัตรประชาชน และการเก็บรวบ รวมสำเนาแสดงตนของลูกค้าต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง (เช่น บัตรประจำตัวประชาชน และหนังสือเดินทาง เป็นต้น)

2. ข้อมูลการติดต่อ อาทิ ที่อยู่ สถานที่ติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล

3. ข้อมูลสำหรับการทำสัญญาซื้อขาย หรือข้อมูลอื่นที่จำเป็นในการแจ้งแก่หน่วยงานราชการต่าง ๆ เช่น ข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชนของลูกค้า และอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของคู่สมรสหรือบุคคลอื่น (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ผู้เข้าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วม หรือผู้รับโอนสิทธิการจองหรือสิทธิอื่น ๆ ภายใต้สัญญาจากลูกค้าโดยตรง ซึ่งเมื่อบุคคลดังกล่าวเข้ามาเป็นคู่สัญญาหรือผู้เป็นเจ้าของภายใต้สัญญากับบริษัทแล้ว บุคคลเหล่านั้นจะมีฐานะเป็นลูกค้า และบริษัทจะถือว่า บุคคลดังกล่าวยอมรับและตกลงปฏิบัติตามนโยบาความเป็นส่วนตัวฉบับนี้แล้วเช่นกัน) ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่ลูกค้าให้ข้อมูลของบุคคลอื่นแก่บริษัท บริษัทจะถือว่า ลูกค้าผู้ให้ข้อมูลให้การรับประกัน และยืนยันในส่วนของสิทธิที่ตนมีในการส่งต่อ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นดังกล่าว ให้แก่บริษัทโดยสมบูรณ์แล้ว

4. ข้อมูลการชำะราคาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในโครงการ รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (เช่น ค่าธรรมเนียมราชการ ค่าบริการในการโอนสิทธิต่าง ๆ หรืออาจรวมถึงค่าบริการสนับสนุนอื่น ๆ ที่บริษัทอาจดำเนินการให้แก่ลูกค้า ถ้ามี) ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงเช็ค หลักฐานการทำสัญญาสินเชื่อ หรือหลักฐานบัญชีธนาคาร หรือบัตรเครดิต

5. ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่ลูกค้าอาจกรอกและนำส่งให้แก่บริษัท ภายใต้แบบฟอร์มต่าง ๆ ที่บริษัทอาจจัดทำขึ้น เพื่อการให้บริการอื่น ๆ โดยเฉพาะภายใต้กระบวนการทำงานบริหารงานชุมชนของบริษัท ภายหลังการโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ลูกค้า ซึ่งอาจรวมถึง ทะเบียนลูกบ้าน แบบฟอร์มการแจ้งซ่อม แบบฟอร์มการค้ำประกันการตกแต่งเพิ่มเติมอาคาร หรือโครงการ เป็นต้น ซึ่งอาจมีการเก็บ รวบรวมในรูปแบบกระดาษ หรือผ่าน Application หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์อื่นที่ บริษัทอาจได้พัฒนาขึ้น ทั้งนี้สำหรับกระบวนการทำงานผ่าน Application หรือระบบดังกล่าว บริษัทมีความจำเป็นในการเก็บ รวบรวม ข้อมูลสำหรับการลงทะเบียนเข้าใช้ Application ดังกล่าวรวมถึงข้อมูลทางเทคนิคอื่น ๆ และรายละเอียด ข้อมูลธุรกรรมการใช้บริการของลูกค้าผ่านระบบดังกล่าว ทั้งในลักษณะที่สามารถระบุตัวตนได้หรือในรูปแบบสถิติ

6. ข้อมูลที่ท่านอาจให้แก่บริษัทเพื่อการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขาย การชิงรางวัลใด ๆ ที่บริษัทจัดทำขึ้น หรือข้อมูลภาพถ่ายของท่านที่บริษัทอาจจัดเก็บรวบรวม เพื่อจัดทำเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัท ในทุกขั้นตอนการติดต่อ ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงระหว่างกระบวนการสร้างหลักฐานการส่งมอบอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

7. ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่ท่านอาจให้แก่บริษัท ระหว่างการติดต่อสื่อสารเพื่อการให้บริการแก่ท่าน หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านอาจให้ยินยอมแก่บริษัทในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เมื่อ:

1. ท่านติดต่อกับบริษัท ด้วยการเข้าเยี่ยมชมโครงการ หรือผ่านทางหน้าเว็บไซต์

2. ท่านให้ข้อมูลเพื่อการทำเอกสารการจอง สัญญาจะซื้อจะขาย แบบฟอร์มการประเมินสินเชื่อ และเอกสารอื่น ๆ ตามที่กำหนดในแบบเอกสารที่กฎหมายหรือหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกำหนด

3. ท่านติดต่อเข้าใช้บริการหรือสอบถามข้อมูลต่าง ๆ จากบริษัท ไม่ว่าผ่านชองทางการสื่อสารช่องทางใด ๆ กับบริษัท

4. ท่านเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่บริษัทจัดขึ้น หรือการให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการให้บริการของบริษัทของลูกค้า นอกเหนือจากการได้รับข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงจากท่านแล้ว บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลอื่นที่ท่านอาจติดต่อ และให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัท เช่น ผู้แนะนำ หรือลูกค้าเดิมที่แจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อมูลคู่สัญญามายังบริษัท และสถาบันการเงินที่ลูกค้าติดต่อเพื่อขอสินเชื่อ เป็นต้น ซึ่งในกรณีดังกล่าว การที่บุคคล ภายนอกดังกล่าวส่งข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลของท่านให้แก่บริษัท บริษัทจะถือว่า ท่านได้ให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้แก่บริษัทแล้ว

3 วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

1. การดำเนินการปฏิบัติหน้าที่และการใช้สิทธิต่าง ๆ ภายใต้สัญญาของบริษัทที่อาจมีต่อท่านในฐานะลูกค้า ในการดำเนินการ เพื่อการจองซื้อ การทำสัญญาจะซื้อจะขายอสังหาริมทรัพย์ การชำระราคาซื้อขาย (ซึ่งอาจรวมถึงการแนะนำทางเลือกในการจัดหาสินเชื่อแก่ลูกค้า) การโอนกรรมสิทธิ์และการให้บริการอื่น ๆ สนับสนุนก่อนและหลังการโอนกรรมสิทธิ์ โดยเฉพาะการให้บริการหลังการขายอื่น ๆ เช่น การให้บริการสนับสนุนโอนมิเตอร์ การให้บริการซ่อมบำรุง และรับประกันชำรุดบกพร่องต่าง ๆ รวมถึงการบริหารจัดการความสัมพันธ์ภายใต้สัญญาอื่น ๆ ที่มีระหว่างบริษัทและลูกค้าแต่ละท่าน (ซึ่งอาจรวมถึงผู้รับโอนสิทธิของลูกค้า ภายใต้เอกสารสัญญาต่าง ๆ ที่ได้มีการลงนามกับบริษัท)

2. การสร้างและปรับปรุงความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่บริษัทมีกับท่าน ซึ่งอาจรวมถึงการฝึกอบรมพนักงาน โดยเฉพาะส่วนของพนักงานที่รับผิดชอบประสานงานกับลูกค้า ผ่านช่องทางการติดต่อต่าง ๆ รวมถึงการวิเคราะห์ สอบสวน จัดการและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ ทั้งนี้ บริษัทจะประเมินถึงความจำเป็นใน การใช้ข้อมูลเพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว โดยจำกัดเพื่อความจำเป็นเท่านั้น

3. การจัดการตอบรับการสื่อสารที่ท่านติดต่อพวกเรา (เช่น เพื่อการตอบคำถาม หรือการจัดการข้อร้องเรียน การใช้บริการ หรือการให้ความคิดเห็นต่าง ๆ )

4. การวิเคราะห์ความสนใจของท่าน เพื่อใช้ในการที่บริษัทจะปรับปรุงรูปแบบการให้บริการ โดยเฉพาะการออกแบบกระบวนการกลไกการวิเคราะห์และทดสอบต่าง ๆ เพื่อการออกแบบผลิตภัณฑ์ โครงการหรือการให้บริการอื่น ๆ ของบริษัท ให้สามารถตอบสนองความต้องการและความสนใจของลูกค้าแต่ ละท่าน และของลูกค้าในภาพรวมของบริษัท หรือบุคคลอื่นที่อาจมีลักษณะใกล้เคียงกับท่านได้มากขึ้น หรือเพื่อการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างบริษัทและท่าน

5. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า โดยเฉพาะภาพถ่ายของลูกค้า เพื่อการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ของ บริษัทที่อาจมีการเปิดเผยและส่งต่อให้แก่สาธารณะ ผ่านสื่อทั้ง Online / Offline ของบริษัทและของ สื่อต่าง ๆ

6. การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่บริษัทอาจมีและต้องปฏิบัติตาม เช่น หน้าที่ในการจัดทำบัญชีและคำนวณเพื่อชำระภาษี การโอนกรรมสิทธิ์ด้วยการยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องให้แก่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น

7. กรณีที่ท่านให้ความยินยอมเพื่อจุดประสงค์การใช้ข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์อื่น บริษัทอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเพื่อการนั้น ๆ เช่น การใช้ข้อมูลเพื่อการติดต่อประชาสัมพันธ์หรือทำการตลาด

4 ระยะเวลาในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผล และเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เพื่อจุดประสงค์ต่าง ๆ ที่ระบุไว้ข้างต้น ตลอดระยะเวลาตราบเท่าที่บริษัทยังมีหน้าที่ตามสัญญาต่อท่าน และอาจต่อเนื่องไปภายหลังการสิ้นสุดหน้าที่ตามสัญญา หากเป็นส่วนที่บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม เพื่อการต่อสู้หรือปกป้องสิทธิที่บริษัทอาจมีต่อท่าน โดยเฉพาะส่วนของการป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย โดยเก็บต่อเนื่องเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมและจำเป็นในการดำเนินการดังกล่าว อย่างน้อยตามอายุความ 1 ปีภายหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาการรับประชำรุดบกพร่องตามที่กำหนด และสิ้นสุดระยะเวลาการให้บริการบริหารชุมชนตามที่บริษัทตกลงปฏิบัติให้แก่ลูกค้า ก่อนการส่งมอบต่อให้แก่นิติบุคคลที่จะได้รับแต่งตั้งและจัดตั้งขึ้น เว้นกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นอื่นในการปกป้องสิทธิของตน ภายใต้กระบวนการโต้แย้งฟ้องร้องสิทธิของบริษัทต่อคู่สัญญา

ทั้งนี้ สำหรับการประมวลผลข้อมูลที่บริษัทจำเป็นต้องประมวลผลตามกฎหมาย บริษัทย่อมมีความจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว ภายใต้กรอบที่กฎหมายเกี่ยวข้องกำหนดไว้ และกรณีบริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วยความยินยอมที่ท่านได้ให้แก่บริษัท บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจนกว่าท่านจะใช้สิทธิในการยกเลิกความยินยอม

5 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

โดยหลักการแล้ว ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่บริษัทได้รับจะได้รับการเก็บเป็นความลับ แต่บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้

1. เปิดเผยให้แก่ผู้ให้บริการภายนอกของบริษัท ซึ่งอาจรวมถึงบริษัทในเครือ หรือบริษัทพันธมิตรทางธุรกิจและการค้า ที่ให้การช่วยเหลือสนับสนุนบริษัทในการให้บริการหรือการปฏิบัติหน้าที่และใช้สิทธิ ที่บริษัทอาจมีต่อท่าน เช่น บริษัทในเครือที่เป็นเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ท่านให้ความสนใจ ผู้ให้บริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการที่ปรึกษาต่าง ๆ แก่บริษัท และนิติบุคคลผู้บริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ที่ท่านได้รับโอนกรรมสิทธิ์ หรือธนาคารสถาบันการเงินที่ให้สินเชื่อแก่บริษัทในการพัฒนาโครงการ ซึ่งบริษัทอาจอยู่ภายใต้เงื่อนไขการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าในลักษณะของหลักฐานการจัดทำสัญญาให้แก่สถาบันการเงินดังกล่าว เพื่อการปล่อยสินเชื่อการพัฒนาโครงการ เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทรับประกันจะดำเนินการส่งต่อและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านลูกค้าให้แก่บุคคลดังกล่าว ตามขอบวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้เท่านั้น และบนพื้นฐานเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และจะมีมาตรการที่เหมาะสมในการรับประกันความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลที่มีการเปิดเผยและส่งต่อดังกล่าว ภายใต้กรอบข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่จะได้รับการจัดทำขึ้น

2. ข้อมูลต่าง ๆ ของบริษัท ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าอาจได้รับการเก็บรักษาไว้ใน ระบบ Cloud (ซึ่งอาจเป็นหน่วยงานภายในหรือต่างประเทศ) ทั้งนี้ในการใช้บริการของผู้ให้บริการภายนอกดังกล่าว บริษัทรับประกันการพิจารณาตั้งค่าการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและความลับของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเป็นระดับพิเศษด้วยมาตรฐานที่เหมาะสมกับความเสี่ยง

3. เพื่อความจำเป็นในการปกป้อง และต่อสู้สิทธิใด ๆ ของบริษัท หรือเพื่อการป้องกันและตรวจสอบลักษณะการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมของท่าน ซึ่งอาจกระทบสิทธิของบริษัทหรือของบุคคลอื่น บริษัทอาจมีความจำเป็นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่ ที่ปรึกษากฎหมาย ผู้จะทำหน้าที่ให้บริการการปกป้องต่อสู้สิทธิแก่บริษัท หรือให้แก่บุคคลผู้เรียกร้องสิทธิดังกล่าว โดยบริษัทรับประกันจะดำเนินการดังกล่าวเท่าที่จำเป็น ด้วยจุดประสงค์ที่ระบุเท่านั้น และจะรับประกัน ไม่ให้กระทบต่อสิทธิของเจ้าของข้อมูลมากเกินสมควร

4. ในกรณีที่บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมาย หรืออยู่ภายใต้บังคับคำพิพากษา หรือคำสั่งของหน่วยงานราชการ บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ให้แก่หน่วยงานดังกล่าว เพื่อเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ที่บริษัทมีตามกฎหมาย โดยบริษัทจะดำเนินการ เพียงเท่าที่จำเป็นตามหน้าที่ดังกล่าว เท่านั้น และ

5. หน่วยงานอื่นซึ่งลูกค้าให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งให้บริษัทสามารถเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ให้แก่บุคคลดังกล่าวได้ เช่น ธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ลูกค้าต้องการขอสินเชื่อเพื่อการซื้อโครงการของบริษัท ทั้งนี้ ในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวทั้งหมด บริษัทจะดำเนินการเพียงเท่าที่จำเป็นตามหน้าที่ดังกล่าวเท่านั้น

6 มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูล

บริษัทรับประกันจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่บริษัทได้รับโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ โดยบริษัทจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะ เพื่อความเหมาะสมตามมาตรฐานในอุตสาหกรรมและโดยสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

7 สิทธิของเจ้าของข้อมูล

บริษัทเคารพสิทธิตามกฎหมายของลูกค้า ในฐานะเจ้าของข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในการควบคุมของบริษัท โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิที่ท่านมีได้ตามเงื่อนไขกำหนดสิทธิที่ระบุไว้ในกฎหมาย ได้แก่ (1) สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (2) สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (3) สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (4) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น (5) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ (6) สิทธิถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลเคยให้ไว้ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ (7) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง และ (8) สิทธิในการร้องเรียน ทั้งนี้ ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทเพื่อดำเนินการขอใช้สิทธิข้างต้นได้ตามรายละเอียดการติดต่อที่บริษัทแจ้งไว้โดยบริษัทจะแจ้งผลการพิจารณาคำร้องของท่านให้ทราบภายในกรอบระยะเวลาที่เหมาะสมตามกฎหมาย ท่านสามารถติดต่อมาได้ที่ [DPO@bagroup.co.th] [029307155-8]

ในการใช้บริการเว็บไซต์ของ เบล็ส แอสเสท กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งท่านสามารถศึกษา นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลการติดต่อ ได้ที่นี่ และบริษัท อาจจำเป็นต้องใช้คุกกี้ในการให้บริการผ่านเว็บไซต์ ซึ่งท่านสามารถกำหนดการตั้งค่าได้